เกลือสีชมพูแก้ไขคีโตได้

เกลือสีชมพูแก้ไขคีโตได้
คีโตเจนิค ไดเอท (Ketogenic Diet) คือ วิธีการลดน้ำหนักที่เน้นกินอาหารไขมันสูง กินโปรตีนให้น้อยกว่าไขมัน และหลีกเลี่ยงการกินคาร์โบไฮเดรต ยกตัวอย่างเช่น เน้นกินหมูติดมัน แต่งดกินข้าว น้ำตาล เป็นต้น ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายดึงเอาไขมันที่เก็บสะสมไว้มาใช้เป็นพลังงานแทนน้ำตาล การลดน้ำหนักสูตรคีโตเจนิก ไดเอตนี้ จะทำร่างกายเข้าสู่สภาวะคีโตนนั้นคือ การที่ร่างกายได้ดึงเอาไขมันมาเผาผลาญแทนน้ำตาล จนตับไม่หลั่งอินซูลินออกมาควบคุมน้ำตาล จึงทำให้น้ำหนักตัวและไขมันส่วนเกินลดลง แต่ก่อนที่ร่างกายจะเข้าสู่สภาะคีโตนได้นั้น ก็ต้องเจอกับไข้คีโตหรือ คีโตฟลูก่อน

ขอขอบคุณแหล่งที่มาภาพประกอบจาก allwellhealthcare.com
ข้อสังเกตอาการไข้คีโต
- ปากแห้ง มือแห้ง มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นปัสสาวะแรง
เกิดจากอะซีโตน ซึ่งเป็นกรดไขมันตัวหนึ่งที่เหลือจากการเผาไขมันมาใช้ และถูกขับออกมาทางผิวหนัง ปัสสาวะและลมหายใจ อะซีโตนจะมีกลิ่นเปรี้ยวน้อย เหมือนผลไม้เปรี้ยว บางคนก็ว่าเหมือนแอมโนเนีย
- ตรวจเจอคีโตนในเลือด ปัสสาวะ และลมหายใจ
จากการเผาผลาญไขมันมาใช้ทำให้มีคีโตนไหลเวียนอยู่ในเลือด บางส่วนที่เหลือใช้จะถูกขับออกมานั่นเอง
- น้ำหนักลดลง
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่การกินคีโตเจนิก ไดเอตในช่วงแรก ๆ น้ำหนักตัวจะลดลงอย่างน่าตกใจ เพราะร่างกายพยายามที่จะขับน้ำซึ่งอยู่ในเซลล์ออกมา ซึ่งทำให้น้ำหนักที่หายไปเป็นน้ำหนักจากน้ำ และพอเข้าในช่วงเดือนที่ 2 – 3 น้ำในเซลล์ที่ถูกคายออกจนสมดุลแล้ว น้ำหนักก็จะไม่ลดลงอย่างฮวบฮาบอีกต่อไป แต่จะค่อย ๆ ลดลงแทน โดยในส่วนที่ลดก็จะเป็นไขมัน
- รู้สึกไม่หิว ไม่อยากอาหาร
อาการหิวเกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ร่างกายจึงได้กระตุ้นให้เราเติมพลังงานด้วยการกินอาหารเข้าไป แต่การกินแบบคีโตเจนิกเราไม่ได้ใช้กลูโคสเป็นพลังงานหลักอีกต่อไป จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเสถียร ไม่แกว่งไปมา จึงทำให้ไม่ค่อยรู้สึกหิวและรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น
- รู้สึกไม่มีแรง
เพราะการที่ร่างกายได้ขับน้ำออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงแรก และเซลล์ไม่อุ้มน้ำมากเหมือนแต่ก่อน ทำให้ระดับอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายเสียสมดุล จึงแสดงออกมาเหมือนเราไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีกระจิตกระใจอยากจะทำอะไร จึงแนะนำให้กินน้ำผสมเกลือทะเล หรือเกลือหิมาลัยเพื่อช่วยให้เซลล์อุ้มน้ำได้ดีขึ้น
- ท้องผูก หรือท้องเสีย
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ทานอาหารสูตรคีโตจะมีอาการท้องผูก เนื่องจากการทานกากใยอาหารน้อยลง หรืออาจขาดน้ำที่เพียงพอ ซึ่งแนะนำให้ทานอาหารที่มีกากใยสูง อย่าง ผักหรือซิลเลี่ยมฮัสก์ และเสริมด้วยแมกนีเซียมซิเตรด หรือแมกนีเซียมออกไซด์ ซึ่งแมกนีเซียมจะช่วยคลายความตึงเครียดในลำไส้ และดึงน้ำเข้าสู่ลำไส้มาก ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวลงและขับถ่ายออกมาได้ง่ายขึ้น โดยในหนึ่งวันร่างกายต้องการแมกนีเซียมรสว 300-420 มก.
- ตะคริว
ผู้ที่ทานอาหารสูตรคิโตเจนิก ไดเอต จะเป็นตะคริวได้ง่าย ด้วยร่างกายขาดอิเล็กโทรไลต์ จึงควรเพิ่มเกลือสามอย่าง ได้แก่ โซเดียม โพแทสเซียมและแมกนีเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่อาการตะคริวจะดีขึ้นและให้ไปเมื่อร่างกายเข้าสู่คีโตอแดปเต็ดแล้วนั่นเอง
ทำไมเกลือหิมาลัยถึงแก้ไขคีโตได้
เนื่องจากการเกลือหิมาลัยนั้น เรียกได้ว่าเป็นเกลือที่มีความบริสุทธิ์มาที่สุดในโลก ที่ผ่านกระบวนการควบแน่นของแร่ธาตุมากว่า 250 ปี ทั้งยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุกว่า 84 ชนิด อาทิเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก จึงเป็นเกลือที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ๆ ด้วยมีคุณสมบัติในการช่วยขจัดโลหะหนักในร่างกาย ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดจึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน อีกทั้งยังช่วยขจัดเสมหะในปอด กำจัดเชื้อโรคในอากาศซึ่งจะช่วยให้เราสามารถนอนหลับได้สบายขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกลือหิมาลัยสามารถแก้อาการคีโตฟลูหรือไข้อีโคได้นั่นเอง
เพิ่มอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายด้วยเกลือหิมาลัย
เพราะการลดน้ำหนักสูตรคีโตจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำเกินกว่าที่จะรับได้ จึงต้องหาน้ำเข้ามาทดแทนในส่วนที่เสียไป และยังเป็นการลดการเกิดไข้คีโตได้อีกด้วย โดยการเพิ่มอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย อีกทั้งเกลือหิมาลัยยังแร่ธาตุอย่าง แมกนีเซียมที่ชาวคีโตต้องการนั่นเอง
การลดน้ำหนักสูตรคีโตเจนิก ได้เอตนี้ ไม่ได้เป็นสูตรการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับทุกคนนะคะ ซึ่งก่อนที่จะทำการลดน้ำหนักก็ควรศึกษาวิธีการ ผลลัพธ์ ข้อดีข้อเสีย ให้ดีก่อนการลดน้ำหนักทุกครั้งนะคะ และยิ่งถ้าคุณมีโรคประจำตัวด้วยก็ควรปรึกษาแพทย์ให้ดี เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นมาได้นั่นเอง
ก่อนอื่นเรามารู้จักเกลือสีชมพู (เกลือหิมาลัย) กันก่อนว่ามีความพิเศษกว่าเกลือชนิดอื่น ๆ อย่างไรบ้าง เกลือสีชมพู (เกลือหิมาลัย) เป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นผลึกเกลือที่เกิดจากการระเหยของน้ำทะเลเมื่อ 250 ล้านปีมาแล้ว จากนั้นเกิดการบีบอัดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดโครงสร้างผลึกเกลือหิมาลัยที่สมบูรณ์ของเกลือธรรมชาติ เป็นเกลือที่มีความสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากสารปนเปื้อน และไม่ผ่านกระบวนการใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุกว่า 84 ชนิด อาทิเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก เป็นต้น จึงนับได้ว่าเป็นเกลือที่ดีที่สุดในโลก มีคุณประโยชน์มากมายต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งในสมัยโบราณ ชนชั้นกษัตริย์เท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้ใช้เกลือหิมาลัยนี้ โดยแหล่งกำเนิดของเกลือหิมาลัยอยู่ที่เทือกเขาหิมาลัย ประเทศปากีสถาน
ประโยชน์ของเกลือสีชมพู (เกลือหิมาลัย)
- ใช้เกลือสีชมพูห่อปลา หรือ เนื้อสัตว์ เพื่อให้สารพิษและไขมันถูกดูดซับด้วยเกลือ
- ใช้เกลือสีชมพูล้างเมือก, ล้างคาวปลา หรือเนื้อสัตว์
- ใช้เกลือสีชมพูเป็นลูกประคบ แก้ปวดท้อง
- ใช้เกลือสีชมพูผสมน้ำต้มไข่ ทำให้ปลอกเปลือกไข่ได้ง่าย สามารถเปลี่ยนคอเลสเตอรอลในไข่ให้เป็นโปรตีน
- ใช้เกลือสีชมพูแปรงฟัน และบ้วนปาก ป้องกันโรคเหงือก
- ใช้เกลือสีชมพูเกลือ 1 หยิบมือ (ใช้นิ้วชี้ กลาง โป้ง หยิบ) ผสมน้ำแร่ 250 ซี.ซี. ดื่มเพื่อดีท็อกของเสียในลำไส้ ดื่มตอนท้องว่าง หลังตื่นนอน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทุกคนได้รู้จักเกลือสีชมพูกันมากขึ้นไหม เมื่อรู้ถึงประโยชน์ก็อย่าลืมไปหาซื้อเกลือสีชมพูตามที่แอดมินได้แจ้งไปเบื้องต้นที่มีจำหน่าย เกลือสีชมพู โลตัส, เกลือสีชมพู tops, เกลือสีชมพู แมคโคร และเกลือสีชมพู 7-11ทั้งนี้บ้านใครที่อยู่ใกล้ ๆ สถานที่แอดมินแจ้งก็ออกไปหาซื้อมาบริโภคกันได้ หรือลูกค้าท่านใดไม่อยากออกไปซื้อข้างนอกก็สามารถสั่งผ่านทางเว็บไซต์ หรือทาง SHOPEE Ananta Wellness, ร้านค้าออนไลน์ | Shopee Thailand
เกลือสีชมพูจำหน่ายและสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับทานใดที่ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับเกลือสีชมพูสามารถปรึกษาเราได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยค่ะ