เปลี่ยนไขมันในร่างกายให้เป็นพลังงานด้วย Ketogenic diet แต่ละคนมีเคล็ดลับที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนักแบบ แอตกินส์ไดเอต Mediterranean diet Flexitarian diet Paleo diet และ Ketogenic diet ซึ่งการจะเลือกลดน้ำหนักแบบไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความชอบของแต่ละคน ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสูตรการลดน้ำหนักแบบ Ketogenic diet หรือการลดน้ำหลักแบบ โลว์คาร์บ หรือการใชไขมันในการลดความอ้วน ว่าคืออะไร แล้วมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
คีโตจินิค ได้เอต คือ การลดน้ำหนักด้วยกันรับประทานอาหารที่เน้นไขมันที่สูง รองลงมาคือโปรตีน และลดการทานคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลให้เหลือในปริมาณที่น้อยที่สุด เพื่อให้ร่างกายนำไขมันสะสมมาเผาผลาญเป็นพลังงาน หรือที่เรียกว่า สภาวะคีโตซีส (Ketosis) โดยสัดส่วนของการรับประทานอาหารอยู่ที่ ไขมันที่ดี 70 % โปรตีน 25 % และคาร์โบไฮเดรต 5 % ของปริมาณแคลอรี่ต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะเลียนแบบการอดอาหาร ทำให้ร่างดึงไขมันที่สะสมเอาไว้มาเผาผลาญเป็นพลังงานหลักแทนน้ำตาล
สูตรไดเอตแบบคีโตเจนิคนี้ ได้ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยโรคลมบ้าหมู แต่ต่อมาได้มีการวิจัยถึงผลลัพธ์เชิงบวกต่อระบบประสาทและสมอง โดยจากรายงานการวิจัยของ European Journal of Clinical Nutrition ได้เปิดเผยว่า ประโยชน์ของสูตรลดน้ำหนักนี้จะสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตดังต่อไปนี้
การลดน้ำหนักด้วยสูตรคีโตเจนิค ไดเอต จะทำให้ร่างกายดึงเอาไขมันที่ร่างกายได้สะสมไว้ ไปเผาผลาญเป็นพลังงานแทนการเผาผลาญแป้งและน้ำตาล ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และเมื่อร่างกายเกิดการดึงไขมันส่วนเกินไปใช้เผาผลาญเป็นพลังงานหลักแทนน้ำตาล ทำให้ตับไม่หลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาล เป็นการทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพคีโตน (Ketone) หรือที่เรียกว่า สภาวะเผาผลาญไขมันแทนน้ำตาล จึงทำให้น้ำหนักตัวและไขมันส่วนเกินลดลงไปด้วย
คีโตฟลู หรือ ไข้คีโต คือ อาการถอนน้ำตาลออกจากร่างกาย โดยอาการจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกที่ร่างกายปรับตัว โดยจะมีอาการโหยน้ำตาลอย่างหนัก รู้สึกอ่อนเพลีย มึนงง สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก นอนไม่หลับ ท้องใส้ปั่นป่วน เหนื่อยง่าย มีกลิ่นปาก แต่ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวจนสามารถนำไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้อย่างสมบูรณ์ และวิธีแก้อาการไข้คีโต โดยการดื่มน้ำเยอะ ๆ หรือทานอาหารที่มีรสเค็มจะช่วยได้มาก
สูตรการลดน้ำหนักแบบ คีโต ไดเอตนี้ ไม่ใช่ไขมันทุกชนิดที่สามารถทานได้ ไขมันที่ควรทานก็ คือ อาหารที่มีไขมันดี อย่าง โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และกรดไขมันอิ่มตัวปานกลาง เช่น เนย ไข่แดง ไวลด์แซลมอล ปลาทูน่า ปลาเทราต์ ธัญพืชที่มีกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ได้แก่ ถั่วแมคคาเดเมีย อะโวคาโด น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดลินิน และน้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น
ทานเนื้อสัตว์ได้ทุกชนิดที่ติดมัน เครื่องใน ไข่ อาหารทะเล เบคอน เนื้อสัตว์แปรรูป ปลาดุก ปลาตาเดียว ปลาแซลมอน ปลากะพงแดง เนื้อวัว เนื้อแกะ เป็นต้น
ผักใบเขียวทุกชนิด แต่ควรหลีกเลี่ยงผักหัวใต้ดิน อย่าง แครอท และหัวมัน ถั่วฝักยาว ถั่วแขก ฟักทอง
ประเภทของนมที่ควรหลีกเลี่ยงคือ นมสด (whole milk), นมขาดมันเนย (skim milk), นมไขมันต่ำ, นมโคแท้ 100%, นมพาสเจอร์ไรส์ น้ำเต้าหู้ เนื่องจากนมทั้งหลายนี้มีคาร์โบไฮเดรตสูง
เป็นอย่างไรบ้างคะกับสูตรการลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิค ไดเอตที่ได้นำมาฝากเพื่อน ๆ หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการลดน้ำหนักที่เพื่อน ๆ สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยนะคะ ซึ่งการลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิค ไดเอต ก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ครั้งหน้าจะมีอะไรที่เกี่ยวกับการลดน้ำแบบสูตรนี้มาฝากเพื่อน ๆ สามารถรอติดตามกันได้เลยค่ะ
หากใครที่กำลังมองหาศูนย์สุขภาพครบวงจรอยู่ละก็ ลองมาที่ Aka Forever Young สิคะ ด้วยเอกะมีการบริการด้านสุขภาพที่ครบครัน ทั้ง การตรวจเช็คสุขภาพด้วยเครื่อง MRIT Scan เครื่องวัดออร่าดูพลังชีวิต ถ้ำเกลือหิมาลายัน และบริการด้านสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้ง Aka ยังมีเกลือหิมาลัย โคมไฟเกลือหิมาลัย หาล้างจมูกเกลือหิมาลัย ขวดสูดไอเกลือหิมาลัย หมอนปิดตาเกลือหิมาลัย และหมอนเกลือหิมาลัย จำหน่าย เพราะเราคือศูนย์สุขภาพที่มีความเชียวชาญด้านการดูแล ฟื้นฟู บำบัด และปรับสมดุลพลังในร่างกาย ด้วยพลังบำบัดจากธรรมชาติ ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อช่วยในการดูแลสุขภาพของคุณ
สนใจติดต่อสั่งซื้อเกลือสีชมพูได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยค่ะ
AKA Forever Young
ที่อยู่ : 303 สุขสวัสดิ์35 (วัดสน) แขวง /เขต ราษฎร์บูรณะ กทม. 10140
โทร : 095-4464194, 096-1363463
Mail: [email protected]
www.akaforeveryoung.com
This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.
Strictly Necessary Cookie should be enabled at all times so that we can save your preferences for cookie settings.
If you disable this cookie, we will not be able to save your preferences. This means that every time you visit this website you will need to enable or disable cookies again.
